ดรอปชิปปิ้งคืออะไร มีวิธีทำยังไง? คู่มือฉบับสมบูรณ์ 2024

ดรอปชิปปิ้ง (Dropshipping) เป็นวิธีการขายสินค้าออนไลน์ที่ง่ายและได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยลดปัญหาทั่วไปของการค้าปลีก เช่น การจัดซื้อ การเก็บ และการจัดส่งสินค้า

เมื่อร้านค้าดรอปชิปปิ้งขายสินค้าได้ ร้านค้าจะส่งต่อคำสั่งซื้อไปยังผู้จัดจำหน่าย ซึ่งจะเป็นผู้จัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าโดยตรง ทำให้เจ้าของร้านค้าสามารถมุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ได้มากขึ้น

เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ Dropshipping กลไกและวิธีการเริ่มต้นธุรกิจดรอปชิปปิ้งกัน

ดรอปชิปปิ้งคืออะไร?

ดรอปชิปปิ้งเป็นวิธีการค้าปลีกที่ร้านค้าออนไลน์ไม่จำเป็นต้องเก็บสินค้าคงคลังไว้เอง เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า ร้านค้าจะส่งต่อคำสั่งซื้อพร้อมการชำระเงินไปยังผู้จัดจำหน่าย ซึ่งจะเป็นผู้จัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า

เจ้าของธุรกิจหลายรายชื่นชอบการใช้ดรอปชิปปิ้ง เพราะช่วยให้ไม่ต้องจัดการคำสั่งซื้อด้วยตนเอง ทำให้ไม่ต้องลงทุนในคลังสินค้าและลดความเสี่ยงที่จะมีสินค้าคงคลังค้างสต็อก ธุรกิจสามารถนำทรัพยากรไปใช้ในการทำการตลาดได้มากขึ้น

มีการคาดการณ์ว่าดรอปชิปปิ้งสร้างยอดขายอีคอมเมิร์ซมากกว่า 300 พันล้านดอลลาร์ต่อปีทั่วโลก

ดรอปชิปเปอร์คือใคร?

ดรอปชิปเปอร์คือบุคคลหรือองค์กรที่รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า และส่งต่อคำสั่งซื้อไปยังผู้จัดจำหน่ายเพื่อจัดการการจัดส่งสินค้า

ดรอปชิปเปอร์มักจะเปิดร้านค้าออนไลน์ เพื่อทำการตลาดและขายสินค้า เมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้า ดรอปชิปเปอร์จะสั่งซื้อสินค้าจากผู้จัดจำหน่าย

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีร้านค้าดรอปชิปปิ้งที่ขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เมื่อลูกค้าสั่งซื้อปลอกคอแมว คุณจะส่งต่อคำสั่งซื้อไปยังผู้จัดจำหน่ายที่มีคลังสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง

(ในบางแหล่งข้อมูล คำว่า “ดรอปชิปเปอร์” อาจหมายถึงผู้จัดจำหน่าย แต่ในบทความนี้ ดรอปชิปเปอร์หมายถึงผู้ขายสินค้าดรอปชิปปิ้ง)

ผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้งคือใคร?

ผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้ง คือผู้ที่จัดการคำสั่งซื้อจากร้านค้าปลีกในนามของลูกค้า พวกเขาเก็บสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่ของลูกค้า

คุณอาจร่วมงานกับผู้จัดจำหน่ายรายเดียวหรือใช้แพลตฟอร์มที่มีรายชื่อผู้จัดจำหน่าย เช่น AliExpress บางครั้งผู้ผลิตก็ทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้งด้วย

ในตัวอย่างร้านขายสัตว์เลี้ยง บริษัทที่รับคำสั่งซื้อ บรรจุปลอกคอแมว และจัดส่งไปยังลูกค้าคือผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้ง

ระบบของดรอปชิปปิ้งเป็นยังไง?

1. ร่วมงานกับผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้ง
2. ตั้งค่าร้านค้าออนไลน์
3. รับออเดอร์จากลูกค้า
4. ส่งต่อออเดอร์ไปยังผู้จัดจำหน่าย
5. ผู้จัดจำหน่ายเตรียมและจัดส่งสินค้า
6. ลูกค้าได้รับสินค้า

ร่วมงานกับผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้ง

ค้นหาผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้งที่มีสินค้าที่คุณต้องการขาย หลังจากเซ็นสัญญาพวกเขาจะจัดการเรื่องการเก็บสินค้า บรรจุภัณฑ์ และการจัดส่งให้กับลูกค้า คุณสามารถร่วมงานกับธุรกิจเฉพาะกลุ่ม หรือใช้แอปดรอปชิปปิ้ง เพื่อขายสินค้าจากซัพพลายเออร์หลายๆ ราย

ตั้งค่าร้านค้าออนไลน์

ขั้นต่อไปคือการสร้างร้านค้าออนไลน์ โดยร้านค้าของคุณจะแสดงสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายในราคาที่คุณกำหนดเอง เพิ่มแอปดรอปชิปปิ้งในร้านค้าของคุณเพื่ออัปเดตรายการสินค้าและส่งคำสั่งซื้อไปยังผู้จัดจำหน่ายโดยอัตโนมัติ

• DSers เชื่อมต่อร้านค้า Shopify กับ AliExpress
• Zendrop มีสินค้ามากกว่า 1 ล้านรายการ
• Spocket มีผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป บราซิล และอินเดีย

รับออเดอร์จากลูกค้า

เมื่อมีลูกค้าเข้ามาในร้านค้าและสั่งซื้อสินค้า กระบวนการชำระเงินจะดำเนินไปตามปกติ ลูกค้าชำระเงินและได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อ

ส่งต่อออเดอร์ไปยังผู้จัดจำหน่าย

เมื่อคุณได้รับการชำระเงินจากลูกค้าแล้ว ให้ส่งต่อรายละเอียดออเดอร์ไปยังผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้ง หากคุณใช้แอปพลิเคชันดรอปชิปปิ้ง ขั้นตอนนี้จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ

ผู้จัดจำหน่ายเตรียมและจัดส่งสินค้า

ผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปปิ้งจะเตรียมคำสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าโดยตรง ผู้จัดจำหน่ายหลายรายยังมีบริการใบแจ้งหนี้ที่มีแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้ง

ลูกค้าได้รับสินค้า

ลูกค้าจะได้รับสินค้าจากผู้จัดจำหน่าย ในขณะที่ร้านค้าจะรับผิดชอบการบริการลูกค้า

 

ควรเริ่มทำดรอปชิปปิ้งหรือไม่?

หากคุณกำลังตัดสินใจว่าดรอปชิปปิ้งคุ้มค่าหรือไม่ นี่คือสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าธุรกิจดรอปชิปปิ้งอาจเหมาะกับคุณ

คุณสนใจเฉพาะการตลาด

หากคุณมีทักษะด้านการทำ SEO หรือการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ดรอปชิปปิ้งอาจเป็นตัวเลือกที่ดี

เป้าหมายหลักของดรอปชิปเปอร์คือการดึงดูดผู้เข้าชมมายังร้านค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Google, YouTube, TikTok และ Instagram ดรอปชิปเปอร์ใช้ทักษะการทำการตลาดด้วยคอนเท้นท์และความเข้าใจในอัลกอริทึมเพื่อเชื่อมโยงลูกค้าที่มีศักยภาพกับสินค้า

เน้นยอดขายมากกว่าสร้างแบรนด์

หากกลยุทธ์ธุรกิจของคุณเน้นไปที่การสร้างยอดขายจำนวนมากมากกว่าการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น ดรอปชิปปิ้งอาจเหมาะกับคุณ

ในโมเดลการค้าปลีกอื่นๆ ผู้ขายมักจะเพิ่มการสร้างแบรนด์ให้กับร้านค้า สินค้า บรรจุภัณฑ์ และการสื่อสารเพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่สม่ำเสมอและสร้างแบรนด์ลอยัลตี้

แต่ดรอปชิปปิ้งมีโอกาสในการสร้างแบรนด์ที่น้อยกว่า เนื่องจากบรรจุภัณฑ์และการจัดส่งไม่สามารถปรับแต่งได้มากนัก และสินค้าดรอปชิปปิ้งมักจะไม่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะร้านค้าใดร้านค้าหนึ่ง ทำให้ยากที่จะสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นและดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ

หากคุณต้องการขายสินค้าที่มีแบรนด์ผ่านดรอปชิปปิ้ง ลองสำรวจตัวเลือกสำหรับดรอปชิปปิ้งแบบฉลากส่วนตัวหรือสินค้าพิมพ์ตามสั่ง

ให้ความสำคัญกับความหลากหลายของสินค้า

ดรอปชิปปิ้งช่วยให้ผู้ค้าสามารถขายสินค้าหลากหลายประเภทจากเครือข่ายซัพพลายเออร์ทั่วโลกได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสต็อกสินค้า

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มาพร้อมกับข้อเสียคือการควบคุมคุณภาพและความสม่ำเสมอของสินค้าที่น้อยลง นอกจากการสั่งตัวอย่างแล้ว คุณอาจมีอิทธิพลต่อกระบวนการผลิตได้น้อยมาก

ยอมรับเวลาจัดส่งที่นานกว่าปกติได้

ในยุคที่ลูกค้าคาดหวังการจัดส่งที่รวดเร็ว การจัดส่งสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายในต่างประเทศอาจใช้เวลานานกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ

หากคุณสามารถหาผู้จัดจำหน่ายในประเทศหรือจัดการความคาดหวังของลูกค้าเกี่ยวกับเวลาจัดส่งได้ ดรอปชิปปิ้งอาจเป็นทางเลือกที่ดี

คุณพร้อมรับมือกับการบริการลูกค้า

แม้ว่าดรอปชิปเปอร์จะไม่ต้องจัดการเรื่องการจัดส่งสินค้า แต่พวกเขายังคงเป็นจุดติดต่อหลักสำหรับลูกค้า ซึ่งหมายความว่าพวกเขามักจะต้องจัดการกับปัญหาการบริการลูกค้าที่อยู่นอกเหนือการควบคุม เช่น ความล่าช้าในการจัดส่ง ปัญหาการจัดส่ง หรือคำขอคืนสินค้า

หากคุณพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายเหล่านี้และจัดการคำถามจากลูกค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดรอปชิปปิ้งอาจเป็นโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม

ข้อดีของดรอปชิปปิ้ง

1. ต้นทุนต่ำ
2. สินค้าหลากหลาย
3. ไร้ต้นทุนพัฒนาสินค้า
4. ทำได้จากทุกที่
5. เริ่มต้นได้ง่าย
6. ทดลองตลาดง่าย
7. ขยายธุรกิจได้ง่าย

ต้นทุนต่ำ

เนื่องจากคุณไม่ต้องซื้อสต็อกสินค้า ดรอปชิปปิ้งจึงต้องการการลงทุนเริ่มต้นที่น้อยมาก ร้านค้าดรอปชิปปิ้งหลายแห่งดำเนินการจากที่บ้านด้วยเพียงแล็ปท็อปเครื่องเดียว ทำให้เป็น แนวคิดธุรกิจขนาดเล็กที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ข้อดีนี้มาพร้อมกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการดรอปชิปปิ้งรายอื่น คุณจะต้องลงทุนเวลาในการเรียนรู้และนำเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญด้านดรอปชิปปิ้ง มาใช้เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

สินค้าหลากหลาย

ใช้ดรอปชิปปิ้งเพื่อเสนอ สินค้าที่กำลังเป็นที่นิยม ให้กับลูกค้าของคุณ เนื่องจากคุณไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าค้างสต็อก คุณสามารถเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าได้ตามต้องการ หากผู้จัดจำหน่ายมีสินค้าตัวใหม่ คุณสามารถนำมาขายได้ทันที

ไร้ต้นทุนการพัฒนาสินค้า

ดรอปชิปเปอร์ไม่จำเป็นต้องลงทุน (และเสี่ยง) เงินทุนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ พวกเขาสามารถค้นหาผู้ขายที่มีผลงานและพร้อมส่งสินค้าได้

ทำได้จากทุกที่

ธุรกิจดรอปชิปปิ้งสามารถดำเนินการได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตราบใดที่คุณสามารถสื่อสารกับผู้จัดจำหน่ายและให้การสนับสนุนลูกค้าได้ทันเวลา คุณก็สามารถทำงานได้จากทุกที่

เริ่มต้นได้ง่าย

ดรอปชิปปิ้งช่วยลดอุปสรรคในการค้าปลีกหลายอย่าง การดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะง่ายขึ้นเมื่อคุณไม่ต้อง

• จัดการหรือจ่ายเงินสำหรับคลังสินค้า
• ตรวจสอบสินค้าคงคลัง
• บรรจุและจัดส่งสินค้า
• ติดตามสินค้าคงคลังเพื่อการบัญชี
• จัดการการคืนสินค้าและการจัดส่งสินค้าเข้าคลัง

แม้จะมีข้อดีเหล่านี้ ดรอปชิปเปอร์ที่ประสบความสำเร็จจะต้องดูแลกระบวนการจัดส่งอย่างรอบคอบและมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้า

ทดลองตลาดง่าย

ดรอปชิปปิ้งเป็นโมเดลการจัดส่งสินค้า ที่มีประโยชน์สำหรับการทดลองความสนใจของลูกค้าในหมวดหมู่สินค้าใหม่ๆ ร้านค้าสามารถทดลองขายสินค้าดรอปชิปปิ้งก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสต็อกสินค้า

ขยายธุรกิจได้ง่าย

การขยายธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมต้องมีการวางแผนล่วงหน้า หากมีคำสั่งซื้อจำนวนมากเข้ามาอย่างกะทันหัน การจัดการอาจเป็นเรื่องยาก และคุณอาจขายสินค้าหมดอย่างรวดเร็ว

ธุรกิจดรอปชิปปิ้งมักจะขยายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนี้ คุณยังสามารถขยายการเข้าถึงของคุณโดยการดรอปชิปปิ้งในตลาดยอดนิยม เช่น Amazon, eBay และ Etsy

ข้อเสียของดรอปชิปปิ้ง

เช่นเดียวกับโมเดลการค้าปลีกอื่นๆ ดรอปชิปปิ้งก็มีข้อเสียเช่นกัน นี่คือ 3 ข้อเสียที่ควรพิจารณา

• กำไรที่น้อยลง
• ความไม่แน่นอนของสินค้าคงคลัง
• ความซับซ้อนในการจัดส่ง

กำไรที่น้อยลง

การเข้าถึงดรอปชิปปิ้งที่ง่ายดายทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง ส่งผลให้ กำไร ลดลงเนื่องจากร้านค้าต่างๆ แข่งขันกันด้วยการลดราคา

ยิ่งคุณลดราคามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะ คำนวณกำไร ที่เหมาะสมสำหรับร้านของคุณ

คุณสามารถลดปัญหานี้ได้ด้วยการเลือกสินค้าที่เหมาะสมและ เลือกกลุ่มสินค้าที่ไม่อิ่มตัว

ความไม่แน่นอนของสินค้าคงคลัง

แม้ว่าดรอปชิปปิ้งจะมีข้อดีในเรื่องการจัดการสินค้าคงคลัง แต่ก็ทำให้ผู้ค้าปลีกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังอย่างกะทันหัน

เนื่องจากผู้จัดจำหน่ายต้องจัดการคำสั่งซื้อจากผู้ค้าปลีกหลายราย ระดับสินค้าคงคลังอาจผันผวนอย่างไม่คาดคิด ซึ่งเป็นปัญหาที่น้อยกว่าหากคุณเก็บสินค้าของคุณเอง

โชคดีที่แอปดรอปชิปปิ้ง เช่น DSers มีตัวเลือกให้ผู้ค้าเมื่อสินค้าของผู้จัดจำหน่ายหมดสต็อก เช่น การซ่อนสินค้าที่หมดสต็อกโดยอัตโนมัติหรือแสดงป้าย “สินค้าหมด”

ความซับซ้อนในการจัดส่ง

การทำงานกับผู้จัดจำหน่ายหลายรายอาจทำให้การจัดส่งคำสั่งซื้อซับซ้อนขึ้น หากลูกค้าสั่งซื้อสินค้าสามรายการจากผู้จัดจำหน่ายสามราย คุณจะต้องรับผิดชอบค่าจัดส่งแยกกันสำหรับแต่ละรายการ และสินค้าทั้งสามอาจมาถึงในเวลาที่ต่างกัน

วิธีแก้ปัญหาหนึ่งคือการให้ลูกค้ารับผิดชอบค่าจัดส่ง แต่ก็อาจทำให้ ราคาของคุณแข่งขันได้น้อยลง

ดรอปชิปปิ้งในปี 2024

ในปี 2024 ดรอปชิปปิ้ง ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ธุรกิจเสริม และผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจค้าปลีก

การเริ่มต้นดรอปชิปปิ้งกับ Shopify เป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ติดตั้งแอปดรอปชิปปิ้งหรือใช้ Shopify Collective เพื่อดรอปชิปสินค้าจากแบรนด์ Shopify ในสหรัฐฯ ต่อไปนี้คือขั้นตอนง่าย ๆ

ลงทะเบียนทดลองใช้ฟรี ด้วยข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ

1. ปรับแต่งร้านค้า ด้วยโลโก้ เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และธีมฟรี ที่เหมาะกับแบรนด์ของคุณ
2. ติดตั้งแอป DSers เพื่อเชื่อมต่อร้าน Shopify กับบัญชี AliExpress หรือเลือกผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปรายอื่น
3. นำเข้าสินค้าไปยังร้านของคุณ และตั้งราคาที่คุณมีกำไร
4. เริ่มขายและทำการตลาดสินค้าของคุณ