กำลังคิดจะเริ่มต้นธุรกิจอยู่ใช่ไหม หนึ่งในเรื่องสำคัญที่คุณต้องตัดสินใจคือคุณจะขายอะไรดี สิ่งที่คุณตัดสินใจจะขายนั้นสำคัญกับอนาคตของคุณในฐานะผู้ประกอบการมากเลยทีเดียว
ในบทความนี้ คุณจะได้พบสินค้า 20 รายการที่กำลังมาแรงบน Shopify ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราอัปเดตทุกปี บอกเลยว่าเราไม่ได้จับมาใส่ลิสต์มั่วๆ เพราะนี่คือไอเดียสำหรับสินค้าที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค
นอกจากนี้ คุณจะได้พบกับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์ผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรง และเคล็ดลับในการสังเกตว่าผลิตภัณฑ์กลุ่มไหนกำลังได้รับความนิยม
20 สินค้าที่กำลังมาแรงในโลกออนไลน์
- วิตามินและอาหารเสริม
- สกินแคร์
- เครื่องสำอาง
- เสื้อโค้ทและแจ็กเก็ต
- จักรยาน
- อุปกรณ์ศิลปะและงานฝีมือ
- ขวดน้ำและแก้วน้ำ
- น้ำหอมและโคโลญจน์
- ไวน์
- ถุงเท้า
- ชุดเครื่องนอน
- โปสเตอร์และงานศิลป์
- เทียนหอม
- ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ
- เครื่องครัว
- ผลิตภัณฑ์ดูแลเล็บ
- ชุดชั้นใน
- ของแต่งรถ
- อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ
- ผ้าห่ม
🏁 Shopify มีครบทุกอย่างที่คุณต้องการในการเริ่มต้นขายของออนไลน์ พร้อมทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณกลายเป็นจริง
1. วิตามินและอาหารเสริม
ปีที่แล้ว วิตามินและอาหารเสริมทำยอดขายได้สูงสุดใน Shopify ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันพื้นฐาน เช่น วิตามินซีและสังกะสี ไปจนถึงอาหารเสริมก่อนออกกำลังกายที่จะทำให้ออกกำลังกายได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เรียกได้ว่ามีอาหารเสริมที่ตอบได้ทุกโจทย์ของคุณ
ยอดการค้นหาผลิตภัณฑ์ช่วยการนอนหลับบน Google เช่น "เยลลีเมลาโทนิน" เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ส่วนยอดการค้นหา "ประโยชน์ของสเปรย์แมกนีเซียม" ก็เพิ่มขึ้นถึง 300% ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่ามีคนกำลังสนใจวิธีใหม่ๆ ในการผนวกอาหาเสริมเข้าไปในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
กลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมในการขายวิตามินและอาหารเสริม ได้แก่
- ทำงานกับอินฟลูเอ็นเซอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสเพื่อสาธิตประโยชน์ของผลิตภัณฑ์
- นำเสนอรีวิวจากลูกค้าที่พอใจในสินค้า
- ทำโปรโมชั่นแบบขายเป็นชุด หรือให้สมัครสมาชิกสำหรับผู้ที่ซื้อประจำ
2. สกินแคร์
สกินแคร์เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่ทุกคนให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง คลีนเซอร์ มอยส์เจอไรเซอร์ เซรั่ม และมาสก์จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับคนทุกเพศทุกวัย
ความสนใจที่ผู้บริโภคมีต่อสกินแคร์ที่มีส่วนผสมคุณภาพสูง ทั้งยังมีกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน ถูกหลักจริยธรรม และไม่ทดลองกับสัตว์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดการค้นหาสำหรับเทรนด์การดูแลผิวพรรณ เช่น เซรั่มกรดไฮยาลูโรนิก,สกินแคร์จากพืช และเรตินอล ต่างก็เพิ่มขึ้น
ในช่วงต้นปี 2024 ยอดการค้นหาเทรนด์บน Google เกี่ยวกับเมือกหอยทาก กำลังค่อยๆ เข้ามาในกระแส ผลิตภัณฑ์ที่มีเมือกหอยทากอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและบรรเทาอาการระคายเคืองได้
ตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดสำหรับสกินแคร์
- ทำงานกับบิวตี้อินฟลูเอ็นเซอร์เพื่อสาธิตสกินแคร์รูทีน
- ขายตัวอย่างผลิตภัณฑ์หรือขนาดเล็กให้ลูกค้าได้ลองใช้
- นำเสนอผลลัพธ์ก่อนและหลังจากลูกค้าที่ใช้จริง
3. เครื่องสำอาง
เครื่องสำอางเป็นกลุ่มที่แทบจะครองความนิยมอยู่เสมอ โดยมีเครื่องมือและเทคนิคใหม่ๆ ที่ทำให้วงการนี้มีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา
เมื่อปีที่แล้ว ลิปสเตนติดอันดับรายการสินค้าที่เป็นที่นิยมของเรา และแม้ว่ายอดการค้นหาเฉลี่ยต่อเดือนจะลดลงเล็กน้อย แต่ยอดการค้นหาที่มีมาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ปี 2022 ก็แสดงให้เห็นว่า สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางนี้จะยังคงเป็นที่นิยมต่อไปในปี 2025
เคล็ดลับในการทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่กำลังมาแรง
- เรียนรู้จาก Rare Beauty แบรนด์เครื่องสำอางซึ่งใช้ความดังของ Selena Gomez มาทำการตลาดผ่านคลิปไวรัลบน TikTok
- ทำคลิปสอนแต่งหน้าเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่
4. เสื้อโค้ทและแจ็กเก็ต
ความสนใจในกิจกรรมกลางแจ้งที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการคาดการณ์ว่าเสื้อผ้าเดินป่าจะเติบโตมากกว่า 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027 เรียกได้ว่าสินค้ากลุ่มนี้กำลังมีอนาคตที่สดใส
การดรอปชิป (Dropshipping) หรือการขายของแบบไม่ต้องสต๊อกสินค้า สำหรับเสื้อผ้าเดินป่าเป็นแนวคิดธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนต่ำ ถ้าคุณเจอซัพพลายเออร์ที่มีผลิตภัณฑ์คุณภาพและการจัดส่งที่รวดเร็ว
อีกทางเลือกหนึ่งในการเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าขายดีกลุ่มนี้ คือการเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าให้กับแบรนด์หรือร้านค้า โดยคุณสามารถสร้างเว็บไซต์หรือช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อรีวิวและโปรโมตเสื้อผ้าเก๋ๆ ลิงก์แอฟฟิลิเอตได้เลย
5. จักรยาน สินค้าขายดีติดเทรนด์
จักรยานไฟฟ้ากำลังปฏิวัติโลกของการขี่จักรยาน จักรยานที่มาพร้อมระบบทุ่นแรงนี้ช่วยการเดินทางสะดวกสบาย ยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเนิน ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงประโยชน์ของการปั่นจักรยานได้มากขึ้น
ความสนใจ “จักรยานไฟฟ้า” เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมียอดการค้นหาเพิ่มขึ้นสูงสุดในทุกหน้าร้อน ตามการประมาณการ ยอดขายจักรยานไฟฟ้าจะเติบโตที่อัตรา 10% ต่อปีจนถึงปี 2030 โดยคาดว่าจะมีจักรยานไฟฟ้ามากกว่า 77 ล้านคันบนถนนในสหรัฐอเมริกา
แม้จักรยานไฟฟ้าจะมีขนาดไม่เล็กและน้ำหนักไม่น้อย แต่จักรยานไฟฟ้าก็ยังสามารถประสบความสำเร็จในวงการดรอปชิปได้ ยกตัวอย่างเช่น John Murphy ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ebike Generation ที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ เขาสร้างร้านดรอปชิปที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าโดยปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาการตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในที่นี้ก็คือผู้ชื่นชอบการล่าสัตว์ ที่ต้องการการเดินทางที่รวดเร็วและเงียบ
6. อุปกรณ์ศิลปะและงานฝีมือ
หลังได้รับความนิยมแบบพุ่งกระฉูดในช่วง COVID-19 กิจกรรมศิลปะและงานฝีมือ อาทิ ชุดระบายสีตามหมายเลข กำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ในตอนนี้ ยอดค้นหา “ชุดถักโครเชต์” นั้นสูงถึง 14,000 ครั้งต่อเดือนในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ “ดินปั้นทำเซรามิก” มียอดการค้นหาอยู่ที่ประมาณ 4,400 ครั้งต่อเดือน
การทำงานฝีมือไม่ใช่แค่เติมเต็มความสุขให้ตัวเอง แต่ยังเป็นกิจกรรมที่มีความยั่งยืนด้วย เพราะหลายคนก็ทำข้าวของเครื่องใช้ด้วยตัวเอง และหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากฟาสต์แฟชั่น แบรนด์อย่าง Darn Good Yarn ก็ได้ให้บริการลูกค้าที่ชื่นชอบงานอดิเรกด้วยการจำหน่ายไหมพรมรักษ์โลก
7. ขวดน้ำและแก้วน้ำ
ไชโยให้กับแก้วเก็บความเย็น แก้วไซส์ใหญ่ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง Stanley Quencher นั้นมาพร้อมกับคุณสมบัติที่เหมาะกับการโฆษณา เช่น มีหลอดและทนทาน จึงทำให้สินค้ากลุ่มนี้มาแรงสุดๆ
ในฐานะที่เป็นอุปกรณ์ช่วยให้การดื่มน้ำสะดวกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แก้วเหล่านี้คาดว่าจะสร้างรายได้ 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2028 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.8% ต่อปี
แก้วช็อต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มขวดน้ำและแก้วน้ำ ก็เป็นสินค้าขายปีประจำปีที่แล้วเช่นกัน เพราะเป็นสินค้าที่ขนส่งง่ายและมีโอกาสใช้ได้ทั้งปี
เมื่อขายขวดน้ำและแก้วน้ำออนไลน์ ให้เน้นไปที่การใช้คำค้นแบบมีรายละเอียด ที่ผู้ซื้อเฉพาะทางกำลังค้นหา เช่น “แก้วช็อตเตกีล่า” ที่มียอดการค้นหาประมาณ 4,400 ครั้งต่อเดือน “แก้วช็อตทรงสูง” ที่มียอดค้นหา 2,400 ครั้ง และ “แก้วช็อตเก๋ๆ” มียอดการค้นหาประมาณ 3,600 ครั้งต่อเดือน คุณควรโฟกัสที่สินค้าเฉพาะทาง เพื่อทำให้ร้านของคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทีนี้ร้านของคุณก็จะโดดเด่นแตกต่างจากร้านอื่นๆ
อีกกลยุทธ์หนึ่งที่น่าพิจารณาในการขายแก้วช็อต แก้วเก็บความเย็น และแก้วน้ำหรือขวดน้ำประเภทอื่นๆ คือการสร้างแบรนด์ของคุณเอง ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถบอกให้ผู้ผลิตใส่ชื่อแบรนด์ของคุณลงไปบนสินค้ายอดนิยมได้เลย
8. น้ำหอมและโคโลญจน์
วงการน้ำหอมกำลังเปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคกำลังหันหลังให้กับน้ำหอมและโคโลญจน์ที่ผลิตในระดับแมส แถมยังกำหนดเพศ และหันมาใช้กลิ่นที่มีความยูนิเซ็กส์ พรีเมียม ธรรมชาติ และปรุงกลิ่นเองได้
เวลาเสิร์ชน้ำหอมและโคโลญจน์ ผู้บริโภคมักจะใส่ชื่อแบรนด์และรุ่นลงไปด้วย การทำ SEO จึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจน้ำหอม หน้าเพจผลิตภัณฑ์และโพสต์ในบล็อกต้องมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และบรรยายโดยละเอียด เพื่อให้โชว์ขึ้นในผลลัพธ์การค้นหา
สำหรับแนวทางในการสร้างธุรกิจน้ำหอมที่ไม่เหมือนใคร คุณสามารถสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ B2B และผลิตน้ำหอมสำหรับบริษัทต่างๆ เพราะโรงแรมและร้านอาหารมักใช้การตลาดผัสสะ (Sensory marketing) เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ของลูกค้าและเชื่อมโยงแบรนด์ของพวกเขากับกลิ่นหอมๆ
น้ำหอม White Tea ของเครือโรงแรม Westin เป็นที่นิยมมากจนตอนนี้มีวางจำหน่ายแล้ว รวมถึงกลิ่นดังๆ ของร้านค้าอย่าง Abercrombie และ Victoria’s Secret เป็นต้น
9. ไวน์
ตลาดไวน์ในปัจจุบันไม่ใช่แค่ไวน์แดงเก่าแก่และไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงแล้ว เพราะผู้บริโภคกำลังสนใจในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สินค้าขายดีที่เข้าถึงได้ เช่น ไวน์ออร์แกนิก ไวน์ธรรมชาติ และไวน์ที่มาจากพื้นที่ที่ยังไม่ดัง นอกจากนี้ พวกเขายังมองหาวิธีเจ๋งๆ ในการค้นหาเบลนด์และซื้อไวน์โดยตรงจากผู้ผลิตอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ประกอบการจึงมีโอกาสที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้ามาแรงกลุ่มนี้ ลองค้นหาแรงบันดาลใจจาก The Sip Society คอมมิวนิตี้คนรักแชมเปญและสปาร์กกลิ้งไวน์หรือไวน์ซ่า ที่ทำให้การชิมไวน์เป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น
10. ถุงเท้า
ถุงเท้าอาจดูเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำธรรมดาๆ แต่ถุงเท้านั้นกลับเป็นทางเลือกที่ทำกำไรได้ดี สำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซ ความต้องการถุงเท้านั้นขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นวัสดุใหม่ที่กำลังฮิต เช่น ขนแกะเมอริโน่ หรือโอกาสในการที่จะอวดป๊อปไอคอนที่คุณชอบผ่านลวดลายบนถุงเท้า
ตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจถุงเท้าออนไลน์
- มุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีความชื่นชอบที่เฉพาะเจาะจงผ่านดีไซน์และลวดลายลิขสิทธิ์
- ขายเป็นกล่องสำหรับสมาชิก หรือชุดผลิตภัณฑ์ที่มีเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ รวมอยู่ด้วย
- เน้นจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น วัสดุรักษ์โลก หรือจุดเด่นที่สวมใส่สบาย
11. ชุดเครื่องนอน
ชุดเครื่องนอนเป็นของใช้ที่ต้องมีทุกบ้าน จึงเป็นกลุ่มสินค้าที่ครองความนิยมตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเป็นสินค้าที่มีตัวเลือกเฉพาะเจาะจงมากมาย โดยมักจะเน้นไปที่วัสดุที่ใช้ทอ ยอดการค้นหา “ชุดเครื่องนอนลินิน” นั้นสูงถึง 20,000 ครั้งต่อเดือน ส่วน “ชุดเครื่องนอนผ้าฟลีซ” เป็นคำค้นหายอดฮิตในทุกหน้าหนาว
เมื่อแบรนด์เครื่องนอนเฉพาะทางของคุณติดตลาดแล้ว ให้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ของคุณโดยการทดลองกับสินค้าที่เกี่ยวข้องก่อน อย่างหมอน ผ้านวม ที่นอน เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน และชุดนอน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเสนอสินค้าอื่นที่คล้ายกัน ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าเฉลี่ยต่อการสั่งซื้อได้
ผู้ค้าใน Shopify ที่ติดตลาดแล้วสามารถนำเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องกันโดยใช้ Shopify Collective ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณร่วมมือกับร้านค้า Shopify อื่นๆ ได้
สำหรับเคล็ดลับในการเติมเต็มความสดใหม่ให้กับธุรกิจเครื่องนอนของคุณ ลองดู Shopify Masters ตอนนี้ที่มาพร้อมเรื่องราวของ Rich Fulop ผู้ร่วมก่อตั้ง Brooklinen แบรนด์ที่อยู่เบื้องหลัง “ชุดเครื่องนอนขวัญใจชาวเน็ต”
12. โปสเตอร์และงานศิลป์
ด้วยตัวสร้างร้านค้าอีคอมเมิร์ซ ศิลปินทุกคนจึงสามารถสร้างเว็บไซต์เพื่อขายผลงานของตนได้ทั่วโลก โลกแห่งโอกาสจึงเปิดกว้างให้สายผลิตทุกคนสามารถหารายได้จากความสามารถพิเศษของตัวเองได้เลย
หนึ่งในข้อดีหลักๆ ของการขายงานศิลปะออนไลน์ คือการที่สามารถขายสินค้าแบบพิมพ์ตามสั่งได้ โดยการพิมพ์ตามสั่งนี้ ศิลปินจะสามารถขายผลงานพิมพ์ของตนโดยไม่สต๊อกสินค้า เพราะจะพิมพ์งานศิลปะชิ้นนั้นออกมาเมื่อมีคำสั่งซื้อเท่านั้น ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องออกไปก่อนล่วงหน้าและประหยัดพื้นที่เก็บสต๊อกด้วย
เมื่อขายโปสเตอร์และงานศิลป์ในร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณ ให้คำนึงถึงกลยุทธ์การตลาดต่อไปนี้
- ชูเรื่องราวเบื้องหลังแต่ละชิ้น ซึ่งอาจข้อมูลเกี่ยวกับศิลปิน แรงบันดาลใจ หรือกระบวนการสร้างสรรค์
- จับมือกับโรงพิมพ์ตามสั่ง เพื่อนำเสนอสินค้าในหลากหลายขนาดและรูปแบบ ตั้งแต่ภาพพิมพ์ขนาดเล็ก ไปจนถึงภาพพิมพ์บนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ๆ และรูปแบบดิจิทัลดาวน์โหลด
- ใช้ภาพคุณภาพสูง เพื่อแสดงรายละเอียดผลงานของคุณ
13. เทียนหอม
ถ้าคุณกำลังคิดจะเริ่มต้นธุรกิจเทียนหอมล่ะก็ ขอบอกว่าตลาดเทียนหอมทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
เทียนหอมไม่ได้ใช้ได้เฉพาะในบ้านเท่านั้น แต่สปาต่างก็นิยมใช้เทียนหอมเพื่อทำสุคนธบำบัด รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ก็ใช้เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น จากข้อมูลของ National Candle Association ผู้บริโภคซื้อเทียนหอมด้วยเหตุผลหลัก 2 ข้อ ได้แก่ เพื่อใช้แต่งบ้าน และเพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
เมื่อไปดู Google Trends ก็จะเห็นว่าเทียนหอมแฮนด์เมด ยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีนิวซีแลนด์เป็นตลาดที่คึกคักสุดๆ ด้วยความที่เทียนหอมสามารถผลิตได้ง่าย จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่เพิ่งจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ถึงขนาดที่ว่าเด็กวัย 9 ขวบก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้
14. ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ
ถ้าคุณเริ่มเครียดกับการมองหาสินค้ามาขายแล้วล่ะก็ ลองเปลี่ยนห้องน้ำของคุณให้เป็นสปาด้วยสินค้าที่กำลังมาแรง อย่างเกลืออาบน้ำและบาธบอมดู ไอเท็มดูแลผิวกายขณะอาบน้ำยอดนิยมบางตัวยังใส่ส่วนผสมของสารบำบัดอย่าง CBD หรือสารสกัดจากกัญชาลงไปเพื่อเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายด้วย
การผลิตและขายผลิตภัณฑ์อาบน้ำเป็นแนวคิดธุรกิจที่กำลังมาแรง โดยสามารถขายได้ไม่ว่า ได้ไม่ว่าร้านอีคอมเมิร์ซของคุณจะเป็นเจ้าเล็กหรือใหญ่ ผู้ผลิตที่อินในสินค้ากลุ่มนี้อย่าง Kyle LaFond ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสินค้าที่คุณผลิตเอง อาทิ สเปรย์ระงับกลิ่นจากกายธรรมชาติ ก็สามารถติดตลาดได้
15. เครื่องครัว
คนรักการทำอาหารสไตล์โฮมคุ๊กทุกคนจะต้องมีจุดหนึ่งที่ตัดสินใจเปลี่ยนอุปกรณ์ทำครัวจาก Ikea มาเป็นเครื่องครัวคุณภาพดี
ตามข้อมูลจาก Google Trends ความต้องการเครื่องครัวระดับพรีเมียม เช่น “กระทะเหล็กหล่อ” กำลังเพิ่มขึ้น คำค้นแบบใส่ยี่ห้อลงไปด้วย อย่าง “เปรียบเทียบ Staub กับ Le Creuset” กำลังได้รับความนิยม โดยมียอดค้นหาประมาณ 2,700 ครั้งต่อเดือน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคกำลังสนใจมองหาคำแนะนำว่าจะซื้ออะไรดี และคุณเองก็มอบคำตอบให้กับพวกเขาได้ด้วยการเขียนบล็อกหรือทำช่อง YouTube
ในภาคธุรกิจการเติบโตของร้านอาหารในประเทศอย่างอินเดียและจีน กำลังผลักดันยอดขายเครื่องครัวพาณิชย์ให้สูงขึ้นกว่าเดิม
วิธีหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจเครื่องครัวของคุณโดดเด่นก็คือ การทำการตลาดสินค้าเครื่องครัวล้ำๆ คุณสามารถร่วมมือกับโรงงานเพื่อผลิตช้อนส้อมหรือถาดอบที่มีเอกลักษณ์ในแบบของคุณได้ หรือจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วจากตลาดขายส่งก็ได้
เมื่อคุณมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ก็ให้สื่อสารข้อดีของผลิตภัณฑ์นั้นผ่านโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่แบรนด์ Our Place ใช้กับผลิตภัณฑ์รุ่น Always Pans นั่นเอง
16. ผลิตภัณฑ์ดูแลเล็บ
ร้านค้าออนไลน์ด้านผลิตภัณฑ์ดูแลเล็บ เช่น OPI และ Olive & June ดำเนินธุรกิจอยู่ในตลาดที่เติบโตราว 5% ต่อปี แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเล็บดังๆ มักจะสร้างเหตุผลให้ลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์ของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์พิเศษประจำอีเวนต์หรือเทศกาล (ร้านค้าอีคอมเมิร์ซทั้ง 2 เจ้าที่ยกมาจึงวางแท็บ "ใหม่" เอาไว้อย่างโดดเด่นในเว็บยังไงล่ะ)
ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเล็บกำลังทำกำไรได้จากการเปลี่ยนไปขายผลิตภัณฑ์แต่งเล็บที่ดูแลสุขภาพเล็บควบคู่ไปด้วย ตามข้อมูลจาก Google Trends ยอดการค้นหา “ออยล์บำรุงเล็บ” เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วน “ผลิตภัณฑ์เสริมความแข็งแรงของเล็บ” ก็มียอดค้นหาประมาณ 9,000 ครั้งต่อเดือน
กลยุทธ์การตลาดที่ประสบความสำเร็จในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเล็บมักจะประกอบด้วยเรื่องราวต่อไปนี้
- โปรโมทผลิตภัณฑ์ผ่านอินฟลูเอ็นเซอร์ด้านไลฟ์สไตล์
- เปิดตัวผลิตภัณฑ์ลิมิเต็ดเอดิชั่นหรือผลิตภัณฑ์ประจำฤดูกาล เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อซ้ำ
- คอลแล็บกับเซเลบริตี้ที่สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ของคุณได้
17. ชุดชั้นใน
ชุดชั้นในเป็นผลิตภัณฑ์ที่(คง)ต้องใช้กันทุกคนทั่วโลก ด้วยขนาดอันกะทัดรัด น้ำหนักเบา แถมยังมีส่วนต่างกำไรสูง ชุดชั้นในจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินค้ามาขายออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นในหรือของแต่งรถ วิธีที่ง่ายที่สุดในการปั้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้ประสบความสำเร็จนั้นยังคงเหมือนเดิม ซึ่งก็คือหาช่องว่างในตลาดให้เจอ แล้วอุดช่องว่างนั้นด้วยประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สร้างขึ้นมาให้เหมาะกับตลาดนั้นโดยเฉพาะ
นี่แหละคือสิ่งที่ SKIMS บริษัทของ Kim Kardashian ทำ แบรนด์นี้เริ่มต้นจากการขายชุดชั้นในที่เป็นมิตรกับรูปร่าง หลังจากเซเล็บเจ้าของแบรนด์ไม่สามารถหาชุดชั้นในที่เหมาะกับหลากหลายสีผิวได้
นอกจาก SKIMS จะใส่ผลิตภัณฑ์ลงไปในรายการโทรทัศน์และโพสต์ทางโซเชียลมีเดียของครอบครัว Kardashian แล้ว สินค้าของ SKIMS ยังมาแรงไม่มีแผ่วด้วยรูปลักษณ์สไตล์มินิมอลที่ติดตาสุดๆ และการใช้แคมเปญโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคแบบออร์แกนิกชนิดที่สังเกตได้เลยทีเดียว
18. ของแต่งรถ
ความต้องการประหยัดค่าบำรุงรักษารถยนต์ทำให้หลายคนหันมาหาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ โดยมองหาของแต่งรถแบบที่เทียบเท่ากับของผู้ผลิตดั้งเดิม หรือที่เรียกว่า Aftermarket ด้วยความที่เดี๋ยวนี้มีแหล่งข้อมูลฮาวทูและคลิปสอนทำสิ่งต่างๆ บน YouTube มากมาย ผู้บริโภคจึงมั่นใจพอที่จะซ่อมรถด้วยตนเองที่บ้าน เมื่อเกิดปัญหาที่พบได้บ่อย
การช้อปปิ้งออนไลน์ยังเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับคนที่ต้องการคุมงบไม่ให้บานปลาย คุณสามารถเปรียบเทียบราคา อ่านรีวิว และสั่งซื้ออะไหล่ที่คุณต้องการได้โดยไม่ต้องไปที่อู่หรือศูนย์รถ
นอกจากที่ปัดน้ำฝน เบรก และกันชนแล้ว ร้านค้าออนไลน์ยังเริ่มหันไปขายของแต่งรถกันมาขึ้นด้วย มียอดการค้นหากล้องติดรถยนต์ ประมาณเดือนละ 26,000 ครั้ง ส่วนที่ยึดโทรศัพท์แบบ Magsafe และน้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน
คำแนะนำสำหรับการขายของแต่งรถ
- ชูว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรอง เช่น ISO, OEM และ CAPA เพื่อยืนยันว่าของแต่งรถที่คุณขายมีมาตรฐานความปลอดภัย
- ช่วยให้ลูกค้าหาของที่ตรงกับรุ่นและยี่ห้อรถของลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยใช้เครื่องมืออินเทอร์แอ็กทีฟหรือตัวกรองการค้นหา
- เขียนคำบรรยายผลิตภัณฑ์และคำแนะนำการซื้ออย่างละเอียด
19. อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ
ตลาดอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือมีมูลค่ามากถึงหลายร้อยพันล้านดอลลาร์ และการเปิดตัวโทรศัพท์ใหม่แต่ละครั้งก็จะทำให้เกิดความต้องการอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น เคส ฟิล์มกันรอย และที่ชาร์จ
อุปกรณ์เสริมที่ใช้ได้กับโทรศัพท์ทุกรุ่นเป็นสิ่งที่สามารถติดตลาดได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าสามารถแก้ปัญหาที่เจอกันทุกคนได้ อย่างเช่น กริ๊ปจับโทรศัพท์ ที่ช่วยจับมือถือเครื่องใหญ่ๆ ได้ถนัดมือขึ้น
ยกระดับกลยุทธ์การตลาดของคุณด้วยคอนเทนต์ต่อไปนี้ดูสิ
- ใช้คลิปบน Instagram และ TikTok เพื่อโชว์คุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครของอุปกรณ์เสริมชิ้นนั้นๆ
- เขียนบทความ SEO ลงบล็อก เพื่อดักคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับมือถือรุ่นต่างๆ
- ให้ลูกค้าสามารถเขียนคอนเทนต์เองได้เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือ
20. ผ้าห่ม
เช่นเดียวกับสินค้าหลายๆ ตัวในลิสต์นี้ ผ้าห่มก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถจับตลาดนีชได้แบบไม่รู้จบ
จะกระโดดลงไปแข่งขันในตลาดผ้าห่มถ่วงน้ำหนักแสนผ่อนคลาย (มียอดการค้นหากว่า 100,000 ครั้งต่อเดือน) หรือจะเจาะตลาดที่นีชกว่านั้นอีกด้วยการขายผ้าห่มถ่วงน้ำหนักและสายรัดอกถ่วงน้ำหนักสำหรับสุนัข (ยอดการค้นหาประมาณ 2,100 ครั้งต่อเดือน) ก็ได้ หรือคุณจะเน้นไปที่การขายผ้าห่มแคชเมียร์สุดหรู (ยอดการค้นหาประมาณ 2,800 ครั้งต่อเดือน) หรือจับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาอะไรที่สบายพอๆ กันในราคาที่ถูกกว่า อย่างผ้าห่มมีฮู้ด (ยอดการค้นหาประมาณ 29,000 ครั้ง) ก็ได้เช่นกัน
และแน่นอนว่า การจะประสบความสำเร็จในตลาดนี้ต้องอาศัยการเข้าใจความต้องการของลูกค้า และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกินความคาดหวังของพวกเขา
สินค้ามาแรงในไตรมาสล่าสุด
เพื่อให้คุณไม่พลาดเทรนด์ล่าสุดในตลาด พบกับลิสต์ 20 กลุ่มผลิตภัณฑ์มาแรงที่มียอดขายเติบโตสูงสุดในไตรมาสที่ผ่านมาในหมู่ผู้ค้า Shopify ในสหรัฐอเมริกา เมื่อเปรียบเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า
อย่าลืมว่าเทรนด์ต่างๆ จะมีกระแสเป็นช่วงๆ โดยที่ยอดขายจะสูงขึ้นและลดลงไปตามช่วงเวลานั้นๆ ของปี เช่น ยอดขายของเล่นในน้ำและอุปกรณ์เสริมสำหรับสระว่ายน้ำจะก้าวกระโดดในช่วงหน้าร้อน
ในขณะเดียวกัน บางเทรนด์ก็จะคงเส้นคงวามากกว่า เช่น อุปกรณ์ทำสวน ที่ติดอันดับกลุ่มสินค้าขายดีมาตลอด 3 ไตรมาสที่ผ่านมา
ดังนั้น เมื่อคิดว่าจะขายอะไรดี ให้พิจารณาว่าลูกค้าของคุณมีแนวโน้มที่จะซื้อของเมื่อไหร่ การเลือกเปิดตัวแคมเปญการตลาดให้ถูกเวลาอาจสร้างผลลัพธ์ได้ดีพอๆ กับการเลือกของมาขายได้ถูกชิ้นเลยทีเดียว
- ของเล่นในน้ำ: มาแรงติดอันดับ 1 ในหน้าร้อน มียอดขายเพิ่มขึ้น 376% ของเล่นกลางแจ้งอื่นๆ เช่น แทรมโพลีนและบ้านเด็กก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นด้วย
- มาลัยดอกไม้แบบฮาวาย: ยอดขายมาลัยดอกไม้แบบฮาวายเพิ่มขึ้น 356% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 และมาลัยข้อเท้าก็ขายดีไม่แพ้กันในช่วงเทศกาล
- ท่อลม: ยอดขายท่อลมเพิ่มขึ้น 274%
- อุปกรณ์ดูแลสนามหญ้า: ยอดขายอุปกรณ์ดูแลสนามหญ้าเพิ่มขึ้น 234% ควบคู่ไปกับอ่างน้ำนกและเฟอร์นิเจอร์นอกบ้าน (เพิ่มขึ้น 199% ทั้งคู่) แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจการทำสวนและกิจกรรมกลางแจ้งอย่างต่อเนื่อง
- อุปกรณ์เสริมสำหรับสระว่ายน้ำ: ยอดขายในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น 220% ส่วนยอดขายสระว่ายน้ำก็เพิ่มขึ้น 156%
- เป้น้ำ: ยอดขายเป้น้ำเพิ่มขึ้น 215% สินค้าอื่นๆ ในกลุ่มกีฬาที่กำลังมาแรงก็มีทั้งสินค้าสำหรับเชียร์ลีดเดอร์และวอลเลย์บอล
- ระบบอินเตอร์คอม: ยอดขายของระบบอินเตอร์คอมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 185% จากไตรมาสก่อนหน้า
- กางเกงขาสั้น: ยอดขายกางเกงขาสั้นเพิ่มขึ้น 150% นอกจากนี้ กางเกงกระโปรงก็มาแรงเช่นกัน
- อุปกรณ์และพาหนะทางน้ำ: ยอดขายที่เพิ่มขึ้น 144% แสดงให้เห็นว่ามีคนสนใจกิจกรรมทางน้ำเพิ่มขึ้น
- ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บหมัด: เพิ่มขึ้น 116% และยอดขายตะกร้อสำหรับสัตว์เลี้ยงก็เพิ่มขึ้น 84% ในช่วงเดียวกัน
- ธงและถุงลมบอกทิศทาง: เพิ่มขึ้น 113% โดยผู้บริโภคอาจซื้อไปเตรียมจัดงานและอีเวนต์กีฬา
- ผ้าคลุมรองนั่งในรถเข็นช้อปปิ้งและเก้าอี้เด็ก: ผ้าคลุมรองนั่งเก้าอี้เด็กแบบถอดได้กลายเป็นกระแสในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 113%
- อุปกรณ์เตาผิง: แม้อากาศจะไม่หนาว แต่อุปกรณ์เตาผิงก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 111%
- บอร์ดนิทรรศการ: บอร์ดนิทรรศการที่ใช้ในองค์กรและสถานศึกษาเพิ่มขึ้น 97%
- ภาชนะใช้แล้วทิ้ง: จานชามช้อนส้อมแบบใช้แล้วทิ้งมียอดขายเพิ่มขึ้น 92% อาจเป็นผลมาจากการที่คนนิยมไปจัดกิจกรรมกลางแจ้งกันมากขึ้น
- ซอฟต์แวร์แผนที่ GPS: ในไตรมาสที่ผ่านมา ผู้ค้า Shopify มียอดขายซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ GPS เพิ่มขึ้น 91%
- แบตเตอรี่เครื่องมือไฟฟ้า: ยอดขายแบตเตอรี่สำหรับเครื่องมือไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 90% โดยอุปกรณ์กลางแจ้งอย่างเครื่องตัดหญ้าและอุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องตัดหญ้ากำลังเป็นที่นิยม
- กล้องดิจิทัล: ยอดขายกล้องดิจิทัลเพิ่มขึ้น 89%
- เครื่องนับเงิน: ยอดขายของเครื่องนับเงินและผลิตภัณฑ์การจัดการเงินสดมียอดขายเพิ่มขึ้น 81% ในไตรมาสที่ผ่านมา
- ชุดว่ายน้ำ: ยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมประจำหน้าร้อน โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 76%
เทรนด์ต่างๆ นั้นเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ดังนั้นอย่าลืมกลับมาสำรวจว่าสินค้าอะไรที่เป็นสินค้ามาแรงประจำไตรมาสต่อไป
สินค้ามาแรงเหล่านี้มาอยู่ในลิสต์ได้อย่างไร?
เทรนด์สินค้าขายดี ในบทความนี้คัดมาจากข้อมูลของผู้ค้าใน Shopify ซึ่งได้แก่
- หมวดหมู่สินค้าที่มียอดขายสูงสุดของผู้ค้า Shopify ในปี 2023
- หมวดหมู่สินค้าที่มีการเติบโตของยอดขายสูงสุดของผู้ค้า Shopify จากเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2024 เปรียบเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ บทความนี้ยังนำข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าค้นหามาจากข้อมูลยอดการค้นหาแบบออร์แกนิกจาก Google Trends และเครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ด Ahrefs
สินค้าที่ไม่เป็นกระแสแล้ว
ในโลกอีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่อยู่ในกระแสวันนี้อาจจะตกกระแสในวันพรุ่งนี้ก็ได้ จากข้อมูลล่าสุด สินค้าเหล่านี้เคยติดอันดับสินค้ามาแรงเมื่อก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้หลุดโผไปแล้ว
1. ลิปสเตน
ลิปสเตนเป็นเครื่องสำอางที่มอบสีทนนานติดริมฝีปาก โดยไม่เลือนเหมือนลิปสติกปกติ และไม่ได้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเหมือนลิปมัน ถึงจะยังเป็นที่นิยมอยู่ แต่ก็ไม่ได้มาแรงติดอันดับในปีนี้แล้ว
2. มัทฉะ
หากคุณเข้าร้านกาแฟในช่วงปีที่ผ่านมา คุณต้องเคยเห็นมัทฉะแน่ๆ มัทฉะคือผงชาเขียวบดละเอียดที่กลายเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพยอดนิยม แม้จะยังคงมีกระแสอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้แรงพอติดอันดับในปีนี้
3. เครื่องมือไฟฟ้า
เครื่องมือไฟฟ้ายังคงมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก แต่ในลิสต์สินค้าที่กำลังมาแรงประจำปีนี้ เครื่องมือไฟฟ้าได้รับความนิยมเป็นรายไตรมาสเท่านั้น
อย่าลืมว่าเทรนด์นั้นผันผวนอยู่ตลอด ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นที่นิยมในวันนี้อาจกลายเป็นสินค้าขายดีในฤดูกาลหน้า ถ้าใช้แคมเปญการตลาดหรือเลือกสื่อสารผ่านอินฟลูเอ็นเซอร์ได้ตรงจุด
คุณควรติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่คุณขายนั้นนตรงกับตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
วิธีการค้นหาสินค้าที่กำลังมาแรง
การค้นหาเทรนด์สินค้าขายดีเพื่อขายออนไลน์นั้นสามารถพลิกโฉมธุรกิจของคุณได้เลย สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องเข้าใจตลาด รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร และสามารถมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีในช่วงเวลาที่ใช่ได้
มาดู 2 วิธีดีๆ ที่คุณสามารถใช้หาสินค้าที่มีแนวโน้มขายดี เพื่อนำมาวางขายในร้านค้าออนไลน์ของคุณ
Google Trends
Google Trends เป็นเครื่องมือฟรีที่เปิดเผยสิ่งที่ผู้ใช้ทั่วโลกกำลังค้นหา โดยมีวิธีใช้งานดังนี้
- ไปที่ Google Trends
- ป้อนคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรืออุตสาหกรรมในแถบค้นหา
- วิเคราะห์กราฟ “ความสนใจในช่วงเวลา” เพื่อดูว่าคำค้นหามีแนวโน้มที่จะเติบโต คงที่ หรือลดลง
- ใช้ฟีเจอร์ “เปรียบเทียบ” เพื่อประเมินความนิยมของคีย์เวิร์ดต่างๆ
- ดู “คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง” เพื่อหาไอเดียสินค้าเพิ่มเติม
ยอดการค้นหาที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแบบออร์แกนิกคือสิ่งที่จะบอกว่าอะไรกำลังมาแรงแต่ก่อนที่คุณจะออกแบบร้านค้าอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้ามาแรง คุณควรหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้านั้นไม่ใช่กระแสที่มาไวไปไว
อีกวิธีหนึ่งในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการค้นหา คือการค้นคว้าคำหลักในอีคอมเมิร์ซโดยละเอียด การตรวจสอบตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ประวัติปริมาณการค้นหาและคำหลักที่มีความเฉพาะเจาะจง จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจได้ละเอียดยิ่งขึ้น
Amazon และตลาดอื่นๆ
ตลาดออนไลน์สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่กำลังขายดี มาดูวิธีใช้ตลาดเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กัน
- ใน Amazon ให้ไปที่หน้า Best Sellers (สินค้าขายดี) เพื่อดูสินค้าที่ขายดีที่สุดในหมวดหมู่ต่างๆ
- ใน eBay ไปที่ Trending Deals เพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์ใดกำลังได้รับความสนใจ
- Etsy มีส่วนสินค้าที่กำลังมาแรง เพื่อพาลูกค้ามาพบกับสินค้าที่บรรณาธิการคัดสรรและสินค้าทำมือยอดนิยม
- ให้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram เพื่อติดตามแฮชแท็กยอดนิยม ที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าของคุณ
การหาว่าสินค้าไหนกำลังมาแรงคือก้าวแรกในธุรกิจของคุณ เมื่อได้สินค้าที่จะขายแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะคุณต้องทำความรู้จักลูกค้า สร้างแบรนด์ และสร้างแผนธุรกิจ
คุณจะเป็นร้านที่มีสต๊อก หรือคุณจะเลือกใช้โมเดลธุรกิจแบบดรอปชิป และประสานงานให้ผู้จัดจำหน่ายจัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าของคุณโดยตรง ก็ขึ้นอยู่กับคุณเลย
เริ่มขายสินค้าออนไลน์ในวันนี้
ลิสต์สินค้าที่กำลังมาแรงในปี 2025 นี้สามารถช่วยให้คุณเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจออนไลน์ของคุณได้ แต่ก็ยังมีสินค้าเฉพาะกลุ่มอีกมากมายให้คุณได้สำรวจ
การเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์หรือร้านดรอปชิปที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่แค่คุณต้องขายสินค้าที่เป็นที่นิยม คุณต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ ปรับแบรนด์ของคุณให้สอดคล้อง และสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ง่ายดาย
เทรนด์ต่างๆ นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่งรวดเร็ว ดังนั้นคุณจึงต้องคอยติดตามตลาดและเตรียมพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ และอย่าลืมคั่นหน้าบทความนี้เก็บไว้ เพื่อติดตามสินค้าล่าสุดที่กำลังมาแรงได้เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสินค้าที่เป็นที่นิยม
ดูข้อมูลจากที่ไหนว่าสินค้าอะไรกำลังมาแรง
คุณสามารถใช้เครื่องมือ เช่น Google Trends หรือเช็คหน้า Best Sellers ของ Amazon และตลาดออนไลน์อื่นๆ เพื่อดูว่าสินค้าใดกำลังเป็นที่นิยมอยู่ วิธีค้นหาว่าสินค้าอะไรกำลังมาแรงในหมู่ผู้บริโภค คือการค้นคว้าคีย์เวิร์ด เพื่อดูว่าสินค้ากลุ่มไหนมียอดการค้นหาแบบออร์แกนิกมากที่สุด
เทรนด์สินค้าขายดีในตอนนี้มีอะไรบ้าง
ตามข้อมูลล่าสุดจาก Shopify สินค้าที่กำลังมาแรงในตอนนี้ได้แก่
- ของเล่นในน้ำ
- มาลัยดอกไม้แบบฮาวาย
- ท่อลม
- อุปกรณ์ดูแลสนามหญ้า
- อุปกรณ์เสริมสำหรับสระว่ายน้ำ
- เป้น้ำ
- ระบบอินเตอร์คอม
- กางเกงขาสั้น
- อุปกรณ์และพาหนะทางน้ำ
- ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็ฐหมัด
- ธงและถุงลมบอกทิศทาง
- ผ้าคลุมรองนั่งในรถเข็นช้อปปิ้งและเก้าอี้เด็ก
- อุปกรณ์เตาผิง
- บอร์ดนิทรรศการ
- ภาชนะใช้แล้วทิ้ง
- ซอฟต์แวร์แผนที่ GPS
- แบตเตอรี่เครื่องมือไฟฟ้า
- กล้องดิจิทัล
- เครื่องนับเงิน
- ชุดว่ายน้ำ
เทรนด์ต่างๆ นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นคุณจึงต้องคอยติดตามตลาดอยู่เสมอ
มีสินค้าใหม่ๆ ในตลาดหรือไม่
ตัวอย่างสินค้ามาใหม่ในตลาด
- แผงโซลาร์เซลล์แบบพับได้
- เซนเซอร์บอกอุณหภูมิอัจฉริยะ
- ชุดช้อนส้อมโลหะชุบสีรุ้ง
- สติกเกอร์ตุ้มหูแม่เหล็กชีวภาพ
- แม่พิมพ์น้ำแข็งรูปเพชร
- ปีกนางฟ้าสำหรับทารก
จะติดตามอัปเดตว่าสินค้าไหนกำลังมาแรงได้อย่างไร
คุณสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสินค้าที่กำลังมาแรงได้ โดยดูจากเครื่องมือแสดงยอดค้นหา เช่น Google Trends รวมถึงรายการสินค้าขายดีบน Shopee, Lazada และตลาดออนไลน์อื่นๆ การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเทรนด์ของผู้บริโภค การสมัครรับจดหมายข่าวที่เกี่ยวข้อง และการติดตามโซเชียลมีเดียก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณตามทันข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์สินค้าขายดีได้เช่นกัน