Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มทรงพลังที่สามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้ โดยมีผู้ใช้งานอยู่เป็นประจำมากกว่า 3 พันล้านคน นับว่ามากกว่าจำนวนผู้ใช้งาน Instagram ซึ่งมีอยู่ 2 พันล้านคน และ TikTok ที่มีอยู่ 1,500 ล้านคน
ผู้ใช้ Facebook มีหลายวิธีในการทำเงิน ตั้งแต่การทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่าน Messenger ไปจนถึงการขายสินค้าใน Marketplace ของ Facebook
อย่างไรก็ตาม วิธีทำเงินจาก Facebook ก็ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรคท้าทาย อัตราการมีส่วนร่วมหรือยอดเอนเกจโดยเฉลี่ยจากโพสต์ที่ไม่ต้องจ่ายเงินจะ อยู่ระหว่าง 1.5% ถึง 2.5% และผู้ที่จ่ายเงินซื้อโฆษณาหรือคอนเทนต์สปอนเซอร์ยอดการมองเห็นลดลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา
แต่ข่าวดีก็คือ Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มาพร้อมวิธีการทำเงินที่น่าสนใจ และหลายวิธีมุ่งเป้าไปที่ผู้ประกอบการและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามใน Facebook
ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาวิธีทำเงินเพิ่มเติมหรือหาลูกค้าใหม่สำหรับธุรกิจของคุณ นี่คือ 6 วิธีที่คุณสามารถสร้างรายได้จากกลุ่มเป้าหมาย Facebook ของคุณ พร้อมกับข้อกำหนดที่คุณต้องปฏิบัติตาม
เช็คแอคเคาท์ของคุณว่าตรงเงื่อนไขหรือไม่
วิธีทำเงินจาก Facebook มีหลายทาง แต่ก่อนอื่นคุณต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนก่อน ซึ่งหมายความว่าหน้า Facebook และคอนเทนต์ที่คุณโพสต์จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านคุณสมบัติของแพลตฟอร์ม ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ ดังนี้
- มาตรฐานชุมชน Facebook: กฎพื้นฐานของแพลตฟอร์ม เช่น ห้ามมีคอนเทนต์ที่มีภาพของความรุนแรงหรือไม่ปลอดภัย การทำคอนเท้นท์ให้ตรงข้อกำหนดนี้คือหนึ่งในวิธีทำเงินจาก Facebook
- นโยบายการสร้างรายได้สำหรับพาร์ทเนอร์: กฎเหล่านี้ใช้กับหน้า Facebook ของคุณโดยรวม รวมถึงคอนเทนต์ที่คุณสร้าง วิธีการแชร์คอนเทนต์ของคุณ และวิธีการรับและทำการชำระเงินออนไลน์
- นโยบายการสร้างรายได้จากคอนเทนต์: กฎที่เกี่ยวกับคอนเทนต์ซึ่งใช้กับทุกชิ้นของคอนเทนต์ที่คุณโพสต์ เช่น ห้ามมีคอนเทนต์ที่มีความรุนแรงหรือไม่สุภาพ
หากคุณต้องการตรวจสอบคุณสมบัติของตนเอง ให้ไปที่ครีเอเตอร์สตูดิโอ และคลิกที่แท็บ ‘การสร้างรายได้’ เลือกเพจที่คุณต้องการดูคุณสมบัติในการสร้างรายได้ และในแท็บดังกล่ว คุณจะได้รับข้อมูลการสร้างรายได้อื่น ๆ เกี่ยวกับเพจด้วย
เมื่อคุณมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ในการสร้างรายได้จากคอนเทนต์ Facebook แล้ว สิ่งสำคัญคือการรักษาคุณสมบัตินั้น
หากคุณต้องการขายบน Facebook คุณต้องตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติที่เข้าเกณฑ์อยู่เสมอ ซึ่งรวมถึงการทำให้คอนเทนต์ในหน้าเพจมีคุณภาพสูง หากคุณไม่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ที่จะทำเงินอีกต่อไป Facebook จะแจ้งให้คุณทราบ พร้อมระบุเหตุผลผ่านแท็บการสร้างรายได้ในครีเอเตอร์สตูดิโอของคุณ
6 วิธีทำเงินจาก Facebook
- สร้างคลิปวิดีโอที่มีโฆษณาคั่น
- เพิ่มโปรแกรมสมาชิกให้เพจของคุณ
- ร่วมมือกับแบรนด์
- สร้างรายได้โดยตรงจากแฟนๆ
- จัดกิจกรรมออนไลน์แบบมีค่าใช้จ่าย
- ดึงกลุ่มเป้าหมายไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณ
1. สร้างวิดีโอที่มีโฆษณาคั่น
โฆษณาคั่นจะดึงดูดความสนใจจากผู้ชมที่มีความสนใจ และเหมาะสำหรับครีเอเตอร์และแบรนด์ที่มีผู้ชมจำนวนมาก เมื่อผู้ใช้กำลังดูวิดีโอบน Facebook พวกเขามีแนวโน้มมากขึ้นที่จะดูโฆษณาให้ครบ หากดูแล้วพวกเขาจะสามารถดูคลิปนั้นให้จบได้ วิธีนี้จึงแตกต่างจากการโฆษณาแบบเดี่ยวๆ แยกกันในฟีดที่พวกเขาจะมองข้าม
โฆษณาคั่นเมื่อนำไปใช้จริง: แบรนด์น้ำดื่ม LIFEWTR ต้องการเพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้างความรู้สึกเชิงบวกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตน
พวกเขาจึงยิงโฆษณาคั่นสั้นๆ ที่จะแสดงกลางวิดีโอทั้งในฟีดและในแพลตฟอร์ม Facebook Watch โดยนำเสนอโปรเจกต์ศิลปะในชุมชนผ่านเรื่องราวที่นำเสนอภาพทรงพลัง แคมเปญนี้สร้างการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และมีการจดจำโฆษณามากขึ้นถึง 1.9 เท่า
ทำไมจึงได้ผล: LIFEWTR ใช้โฆษณาคั่นเพื่อเล่าเรื่องและรักษาความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
วิธีเริ่มต้น: คิดให้ออกว่าคุณต้องการสร้างผลลัพธ์อะไรจากวิดีโอของคุณ และมีเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับแบรนด์ที่คุณสามารถนำมาเล่าได้ หากคุณต้องการใส่โฆษณาคั่นในช่วงกลางคลิป ให้ลองเพิ่มช่วงเวลาหยุดพักสั้นๆ ในวิดีโอสัก 1-2 วินาทีแบบที่เป็นธรรมชาติ เพื่อแทรกโฆษณาคั่นลงไป นอกจากการปฏิบัติตามเกณฑ์คุณสมบัติของ Facebook แล้ว วิดีโอต้องมีความยาวมากกว่า 1 นาที และอินฟลูเอ็นเซอร์ต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 10,000 คนเพื่อยิงโฆษณาคั่น เคล็ดลับเหล่านี้เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการจ่ายเงินเพื่อยิงโฆษณาคั่น
2. เพิ่มโปรแกรมสมาชิกให้เพจ
วิธีทำเงินจาก Facebook แบบรายเดือนอย่างสม่ำเสมอผ่านโปรแกรมสมาชิกจะกระตุ้นให้ผู้ติดตามขาประจำจ่ายเงินอยู่เป็นประจำเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ของคุณ วิธีนี้เหมาะสำหรับแบรนด์และครีเอเตอร์ที่มีผู้ชมจำนวนมาก และมีความกระตือรือร้นในการสร้างคอนเทนต์ และอยากตอบแทนแฟนๆ ด้วยคอนเทนต์และส่วนลดพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ “ดาว” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อดาวเพื่อส่งเป็นทิปให้กับครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม
การสมัครรับเมื่อนำไปใช้จริง: The Vegan Baker ได้สร้างกลุ่ม Facebook แยกสำหรับผู้สนับสนุนแบรนด์ แฟนๆ จะถูกเรียกเก็บเงิน 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์และส่วนลดพิเศษ
นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถส่งทิปเพิ่มเติมผ่านฟีเจอร์ดาวของ Facebook สำหรับคอนเทนต์ที่พวกเขาชื่นชอบเป็นพิเศษได้ด้วย
ทำไมจึงได้ผล: The Vegan Baker ใช้วิธีทำเงินจาก Facebook จากผู้ชมชื่นชอบคอนเทนต์ของเพจ และให้รางวัลแก่ผู้ชมด้วยคอนเทนต์พิเศษ ฟีเจอร์ดาวจะช่วยบอกให้แบรนด์รู้ว่าคอนเทนต์แบบใดได้ผลดีที่สุด เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ติดตามขาประจำ
วิธีเริ่มต้น: ฟีเจอร์โปรแกรมสมาชิกจะสามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่ ได้รับคำเชิญ เท่านั้น ในขณะนี้ ผู้ใช้สามารถปลดล็อกโปรแกรมสมาชิกได้เมื่อมีผู้ติดตาม 10,000 คน หรือมีผู้กลับมารับชมมากกว่ 250 คนขึ้นไป และได้รับการมีส่วนร่วมกับโพสต์มากกว่า 50,000 ครั้ง หรือมียอดการรับชม 180,000 นาที
เมื่อคุณได้รับคำเชิญแล้ว คุณสามารถเลือกสิทธิประโยชน์ที่คุณต้องการให้สมาชิกได้รับ สร้างวิดีโอโฆษณาเพื่อเปิดตัวโปรแกรมสมาชิกของคุณ และอัดคลิปขอบคุณเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ได้
3. ร่วมมือกับแบรนด์สร้างคอนเทนต์
สร้างคอนเทนต์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องเป็นอีกหนึ่งวิธีทำเงินจาก Facebook เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและทำให้คอนเทนต์ที่คุณผลิตมีความหลากหลาย
มีหลายแบรนด์เลยที่ต้องการทำงานร่วมกับอินฟลูเอ็นเซอร์ ครีเอเตอร์ และบริษัทอื่นๆ เพื่อเข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ และเพิ่มการรับรู้แบรนด์ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามและสร้างการมีส่วนร่วม
การร่วมมือกับแบรนด์เมื่อนำไปใช้จริง: StyleNow Feed ได้ร่วมมือกับ Jasper’s Boutique เพื่อมอบคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้กับผู้ติดตามของทั้งสองแบรนด์ การเป็นพันธมิตรแบบชำระเงินทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถร่วมมือกันสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของพวกเขา และผู้ใช้สามารถคลิกที่คอนเทนต์แต่ละอันเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้นๆ ได้
ทำไมจึงได้ผล: แบรนด์ทั้งสองมีความสอดคล้องกันดีและมีผู้ชมที่คล้าย แต่ไม่เหมือนกัน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถปลดล็อกกลุ่มผู้ติดตามใหม่ๆ ได้โดยการเข้าถึงผู้ใช้ที่มีความเชื่อมโยงกับแบรนด์พันธมิตรอย่างเหนียวแน่น เป็นอีกหนึ่งวิธีทำเงินจาก Facebook
วิธีเริ่มต้น: ก่อนที่คุณจะสามารถเริ่มแท็กพันธมิตรธุรกิจในโพสต์ คุณต้องส่งคำขอเข้าถึงก่อน หลังจากนั้นจึงสามารถเข้าถึงโอกาสในการร่วมมือและดูข้อมูลเชิงลึกภายในตัวจัดการการร่วมงานกับแบรนด์ (Brand Collabs Manager) ได้
วิธีการสร้างรายได้ประเภทนี้เหมาะสำหรับเพจที่มีผู้ติดตามขาประจำที่กระตือรือร้น และคอนเทนต์ส่วนใหญ่ที่โพสต์นั้นไม่มีความเสี่ยง
4. วิธีทำเงินจาก Facebook จากแฟนๆ โดยตรง
แฟนๆ ที่ลงทะเบียนใช้ Facebook Stars สามารถซื้อดาวเพื่อแสดงความชื่นชมต่อคอนเทนต์ของคุณได้ เมื่อผู้ชมดูการถ่ายทอดสดหรือกดดูรีลของคุณ พวกเขาจะสามารถแตะที่ไอคอนดาวเพื่อส่งดาวไปยังเพจ และ Facebook จะจ่ายเงินให้คุณ 0.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อดาว 1 ดวงที่คุณได้รับจากคอนเทนต์
รางวัลจากคอนเทนต์ที่ไม่ต้องจ่ายเงินเมื่อนำไปใช้จริง: Paula Garcia มีผู้ติดตามจำนวนมาก และเมื่อเธอสร้างรีลสำหรับ Facebook โดยเฉพาะ เธอก็สามารถสร้างรายได้จากยอดการเข้าชม ยอดการกดถูกใจ และจำนวนความคิดเห็นที่เธอได้รับ จริงๆ แล้ว Paula ได้ใช้กลยุทธ์หลายอย่างที่ระบุไว้ในบทความนี้มาเสริมสร้างกลยุทธ์ในการทำงานจาก Facebook ของเธอ เช่น เธอได้หาสปอนเซอร์ให้กับรีลของเธอ และโพสต์คอนเทนต์แบบไม่ต้องจ่ายเงินบนเฟซบุ๊ก
ทำไมจึงได้ผล: Paula Garcia มีผู้ติดตามจำนวนมากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะใช้งานฟีเจอร์ของแพลตฟอร์มเป็นวิธีทำเงินจาก Facebook
วิธีเริ่มต้น: Facebook Stars มีให้เฉพาะสมาชิกของ Level Up และพาร์ทเนอร์ โดยเมื่อสมัครแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนในแชทเมื่อมีผู้ชมส่งดาวให้ และยังสามารถติดตามจำนวนดาวของคุณใน Meta Business Suite
5. จัดกิจกรรมออนไลน์แบบมีค่าสมัคร
มีส่วนร่วมกับผู้ติดตามผ่านกิจกรรมไลฟ์สด ที่พวกเขาสามารถสนุกได้จากบ้านของตัวเอง ฟีเจอร์กิจกรรมแบบมีค่าใช้จ่ายของ Facebook นี้จะอนุญาตให้คุณกำหนดเวลา ตั้งค่า และจัดกิจกรรมผ่านเพจของคุณได้ จึงเหมาะกับครีเอเตอร์และธุรกิจที่เปลี่ยนจากการจัดกิจกรรมในชีวิตจริงตามสถานที่ต่างๆ มายังโลกออนไลน์แทน
การจัดกิจกรรมแบบมีค่าใช้จ่ายเมื่อนำไปใช้จริง: Jasper’s Market จัดและโฆษณากิจกรรมจำนวนมากผ่านหน้า Facebook สำหรับธุรกิจของตน แฟนๆ สามารถดูรายการกิจกรรมและชำระเงินเพื่อเข้าถึงกิจกรรมนั้นได้โดยตรงจากหน้าเพจของแบรนด์
การเห็นว่ามีผู้สนใจหรือตอบรับเป็นจำนวนเท่าไหร่ก็สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับกิจกรรมได้ และควรมีการเตือนความจำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แฟนๆ ไม่พลาดอะไรไป
ทำไมจึงได้ผล: การจัดกิจกรรมออนไลน์ช่วยให้ Jasper’s Market สามารถเข้าถึงผู้ชมใหม่ที่สนใจในกิจกรรมประเภทต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังสร้างการมีส่วนร่วมในหมู่ผู้ติดตามที่อาจไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกันทั้งหมด
วิธีเริ่มต้น: เปิดใช้งานกิจกรรมออนไลน์ที่มีค่าใช้จ่ายในหน้าเพจของคุณ และคลิกที่แท็บกิจกรรมเพื่อสร้างกิจกรรมใหม่ เลือกตัวเลือก “มีค่าใช้จ่าย” และกรอกข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณ รวมถึงราคาและผู้ร่วมจัดงาน หากคุณมี
บัญชี Facebook เพจของคุณจะต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติในการสร้างรายได้ของ Facebook ก่อน จึงจะสามารถสร้างกิจกรรมแบบมีค่าใช้จ่ายได้
6. ดึงกลุ่มเป้าหมายไปยังร้านค้าออนไลน์ของคุณ
ดึงดูดผู้ซื้อจากหน้า Facebook ของคุณไปยังร้านค้า Shopifyของคุณ ผ่านฟีเจอร์การขายบนโซเชียลของแพลตฟอร์ม วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งกับธุรกิจขนาดเล็กบน Facebook เพื่อดึงดูดผู้บริโภคในระหว่างที่พวกเขากำลังเลื่อนดูโฆษณา คุณสามารถเปลี่ยนโพสต์แบบชำระเงิน ซึ่งมียอดเข้าชมดีมากเป็นโฆษณาที่มีค่าใช้จ่าย เพื่อดึงดูดให้มีการเข้าชมมากขึ้นและกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่คุณต้องการเข้าถึงเองได้
โพสต์ที่มีสินค้าให้ซื้อเมื่อนำไปใช้จริง: แบรนด์เสื้อผ้า QUEENSHOP ต้องการเพิ่มยอดขายในหมู่แฟนๆ ที่เคยมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของตนโดยใช้ฟีเจอร์ Live Shopping ของ Facebook เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่กำลังออนไลน์อยู่ พร้อมนำทางพวกเขาไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์ผ่าน CTA ที่อยู่บริเวณมุมล่างของขอ วิดีโอไลฟ์สดสามารถส่งผมให้เกิดการคืนทุนจากโฆษณาเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า และเพิ่มอัตราการใส่สินค้าลงในตะกร้าอีก 3.3%
ทำไมจึงได้ผล: QUEENSHOP สามารถมีส่วนร่วมกับแฟนๆ ที่กำลังออนไลน์อยู่และพร้อมที่จะซื้อสินค้า วิธีนี้ได้ลดจำนวนขั้นตอนในกระบวนการซื้อโดยนำผู้ซื้อไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง เพื่อให้พวกเขาสามารถซื้อได้ทันที
วิธีเริ่มต้น: เพิ่มแค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์ของคุณไปยังหน้า Facebook ของคุณโดยใช้ตัวจัดการแค็ตตาล็อก และเชื่อมโยงไปยังผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเมื่อคุณโพสต์ภาพหรือวิดีโอ ส่วนการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ในคลิปไลฟ์สด ให้คลิกที่ฟีเจอร์ใต้ผลิตภัณฑ์หรือลิงก์ที่คุณต้องการให้แสดงหลังจากที่คุณเริ่มไลฟ์
เริ่มกระจายรายได้
การเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การนำเสนอบริการ และการสร้างสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ล้วนได้รับประโยชน์จากผู้ใช้ของ Facebook ซึ่งมีขนาดใหญ่มากในฐานะเครื่องมือในการขาย
ด้วยฟีเจอร์ใหม่ของแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อผู้ประกอบการและแบรนด์โดยเฉพาะ ทำให้แบรนด์สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมใหม่และผู้ชมที่มีอยู่ได้ง่ายกว่าที่เคย
แต่คุณไม่ควรผูกติดอยู่กับฟีเจอร์เดียวหรือแพลตฟอร์มเดียว คุณควรจะกระจายออกไปเผื่อแพลตฟอร์มใดหยุดทำงาน เพื่อที่คุณจะได้มีช่องทางสำหรับการเข้าชมและสร้างรายได้จากช่องทางอื่นๆ ได้อีก เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทุกวันนี้ที่การเข้าถึงแบบออร์แกนิกของเว็บไซต์โซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ เช่น Facebook ลดลงทุกวันๆ และผู้บริโภคเริ่มคลางแคลงใจกับแคมเปญโฆษณาแบบชำระเงินมากขึ้นด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีทำเงินจาก Facebook
สามารถทำเงินจาก Facebook ได้จริงหรือไม่
ได้ คุณสามารถทำเงินจาก Facebook ได้ แพลตฟอร์มนี้มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ช่วยให้ครีเอเตอร์ อินฟลูเอ็นเซอร์ และแบรนด์ที่มีเพจ Facebook สามารถสร้างรายได้จากบัญชีและคอนเทนต์ ซึ่งรวมถึงการยิงโฆษณาคั่นคลิปวิดีโอ การร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ และอินฟลูเอ็นเซอร์ต่างๆ โปรแกรมสมาชิก การจัดกิจกรรมออนไลน์แบบมีค่าใช้จ่าย และฟีเจอร์การผสานการซื้อขายเข้ากับโซเชียลมีเดียเพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายไปยังร้านออนไลน์ของคุณโดยตรง
ต้องมีผู้ติดตามกี่คนบน Facebook ถึงจะทำเงินได้
ยิ่งคุณมีผู้ติดตามมากเท่าไหร่ วิธีทำเงินจาก Facebook ก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้ว ฟีเจอร์การสร้างรายได้ใหม่ๆ (รวมถึงโฆษณาคั่นและโปรแกรมสมาชิก) มีให้ใช้ได้เฉพาะในเพจที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถทำเงินจาก Facebook ได้เลยถ้าไม่เข้าเกณฑ์ เพราะหากคุณมีผู้ติดตามน้อยกว่านั้น Facebook ก็นำเสนอตัวเลือกอื่น ๆ เช่น ฟีเจอร์การผสานการซื้อขายเข้ากับโซเชียลมีเดีย การดึงกลุ่มเป้าหมายไปยังร้านค้าของคุณ และการเป็นพันธมิตรกับแบรนด์และอินฟลูเอ็นเซอร์อื่น ๆ ซึ่งไม่มีเกณฑ์ขั้นตำ่ในด้านจำนวนผู้ติดตาม